ทานหวานอย่างไร ไม่ให้กระทบสุขภาพ
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

ทานหวานอย่างไร ไม่ให้กระทบสุขภาพ


ความหวาน เป็นรสชาติที่ทุกคนเหมือนขาดไม่ได้ในชีวิต รู้สึกได้ทานแล้วเหมือนร่างกายเรามีพลัง แต่รู้ไหมว่า หากบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป ส่งผลให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้น ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้

พฤติกรรมการกินแบบ ติดหวาน เหล่านี้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป ส่งผลให้ อินซูลิน (
Insulin ) ทำงานผิดปกติ ทำให้เซลล์เกิดภาวะต้านอินซูลิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคเบาหวาน และโรคอื่น ๆ ตามมา

โรคเบาหวาน ( Diabetes ) เกิดจากพฤติกรรมการกินของเรา แม้ว่าร่างกายเราจะดูไม่อ้วน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เป็นโรคเบาหวาน เพราะอินซูลิน ( Insulin ) ในร่างกายน้อยกว่ามาตรฐาน ทำให้น้ำตาลในเลือดมีมากจนเกินไป จนก่อให้เกิด โรคเบาหวาน

อาการของผู้ป่วย โรคเบาหวาน ( Diabetes )

- ปัสสาวะบ่อย ในขณะที่เราปัสสาวะ น้ำตาล จะดึงน้ำจากเลือดออกมา ทำให้เรากระหายน้ำมากขึ้น

- ร่างกายซูบผอม เพราะในร่างกายไม่มีพลังงานของ น้ำตาล ร่างกายจึงไปเผาผลาญไขมัน และกล้ามเนื้อ ทำให้เรา อ่อนเพลีย ไม่มีแรง

- สายตามัว ( Blurred Vision ) เพราะจอตาเสียหายจาก น้ำตาลในเลือด ที่มากจนเกินไป ถ้าอยู่ในระดับรุนแรงที่สุด ถึงขั้นเสียการมองเห็นได้

โรคแทรกซ้อนของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ( Diabetes )

1. โรคตา จอประสาทตาเสื่อม และต้อกระจก จากโรคเบาหวาน

หากระดับน้ำตาลในร่างกายเราสูง ร่างกายก็จะขับน้ำตาลออกมาตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงเลนส์ตา ทำให้เกิด ต้อกระจก ต้อหิน ประสาทตาเสื่อม หรือตาบอดได้ ถ้าผู้ป่วยเริ่มมีอาการปวดตา เห็นภาพซ้อน ควรพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

2. โรคความดันโลหิตสูง

หากเราเป็นโรคความดันโลหิตสูง มักจะมีโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคตา และโรคทางสมอง ผู้ป่วยเบาหวานควรควบคุมระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะช่วยควบคุมความดันโลหิตสูงให้เป็นปกติได้

3. โรคผิวหนัง

โรคผิวหนัง เกิดขึ้นจากร่างกายเราขาดน้ำ ทำให้ผิวหนังแห้ง และเกิดการติดเชื้อได้ง่าย ทำให้ผิวหนังเกิดอาการคัน และเกิดแผลขึ้นตามผิวหนังในร่างกาย แถมยังรักษาหายยากอีกต่างหาก ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานหมั่นสำรวจร่างกายเรา และดูแลสุขภาพผิวด้วยโลชันบำรุงผิว

4. โรคหลอดเลือดหัวใจ

เป็นโรคที่แทรกซ้อนที่มีอันตรายต่อชีวิตได้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ จะมีอาการแน่นหน้าอก จากหลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กระทั่งตาย สาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานเป็นโรคนี้ได้ คือ ไม่ควบคุมความหวาน ไขมันในเลือดสูง ไม่ออกกำลังกาย  หมั่นตรวจร่างกายเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

5. ปลายประสาทเสื่อม

ปลายประสาทเสื่อม  เกิดจากเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงเส้นประสาทถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถส่ง ออกซิเจน ( Oxygen ) มาตามกระแสเลือด เพื่อไปเลี้ยงเส้นประสาทได้ ทำให้การทำงานเส้นประสาทเสื่อมลง เกิดอาการ ชาปลายเท้า ปลายมือ ส่วนผู้ที่พบว่าเป็นโรคเบาหวาน มักจะเกิดปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้

หากเราไม่อยากเป็นโรคเบาหวาน ( Diabetes ) หรือคนที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว อยากทานหวานบ้าง แต่ก็กลัวน้ำตาลในเลือดจะสูง วันนี้เรามาดูว่าน้ำตาลแบบไหนจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

น้ำตาล  ( Sugar ) เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของคาร์โบไฮเดรต จะพบใน ผัก ผลไม้ ธัญพืช เป็นต้น อาหารนี้มีสารอาหารเป็นส่วนประกอบที่สำคัญต่อร่างกาย ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติ จึงไม่เป็นผลเสียต่อร่างกาย

อย่างไรในปัจจุบัน มีร้านค้าต่าง ๆ ไม่จะเป็นอาหารคาว หรืออาหารหวาน ก็ต้องใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบหนึ่ง เพื่อปรุงรสให้ถูกปากผู้บริโภค ซึ่งมากจากการแปรรูปอ้อย หากเรารับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

ปริมาณน้ำตาลที่ควรบริโภคต่อวัน

น้ำตาล เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเรื้องรัง เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น องค์การอนามัยโลก ( World Health Organization: WHO ) จึงแนะนำให้ผู้ใหญ่และเด็กบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัมต่อวัน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับปกติ ช่วยชะลอการเกิดโรคแทรกซ้อน สามารถทำได้โดยการควบคุมอาหาร

ปริมาณน้ำตาลโดยประมาณที่คนทั่วไปนิยมบริโภค มีดังนี้

น้ำผลไม้ 200 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 6.25 ช้อนชา

ชานมไข่มุก 350 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 11.25 ช้อนชา

กาแฟสด 475 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 10.5 ช้อนชา

น้ำอัดลม 450 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 10.75 ช้อนชา

นมเปรี้ยว 400 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 19 ช้อนชา

ชาเขียว 500 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 14.5 ช้อนชา

โรคเบาหวาน (
Diabetes ) เป็นแล้วจะก่อนให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ เราสามารถควบคุมการทาน หรือเลือกทาน น้ำหวานดอกมะพร้าว ออร์แกนิค ที่ผลิตจาก ดอกมะพร้าวธรรมชาติ 100 %  เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ยังต้องการความหวาน ซึ่งดีต่อสุขภาพ แต่ก็ต้องทานในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย แค่นี้เราก็สามารถทานหวานได้อย่างไม่รู้สึกผิดแล้ว

บทความเพิ่มเติม

ระบบขับถ่ายดี ได้โดย น้ำหวานดอกมะพร้าว

ติดหวานได้ แต่อย่าติด น้ำตาล

น้ำหวานดอกมะพร้าวกับเทรนรักสุขภาพวีแกน ( Vegan )
 


Tag :


บทความที่แนะนำ