น้ำหวานดอกมะพร้าว ของดีที่ใช้แทนน้ำตาลได้
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

น้ำหวานดอกมะพร้าว ของดีที่ใช้แทนน้ำตาลได้


น้ำหวานดอกมะพร้าว เป็นสิ่งที่หลายๆ บ้านเริ่มนำมาใช้ประกอบอาหารแทนน้ำตาล โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดของหวาน รวมไปถึงผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนทานหวานแต่ยังมีสุขภาพที่ดี

 

     เราสามารถลดน้ำตาลได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากการเลือกทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม และควบคุมปริมาณการกินอย่างพอเหมาะ ลดการเติมน้ำตาลลงในเครื่องดื่ม หรือเลือกเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล นอกจากนี้การเลือกเครื่องปรุงอาหารก็สำคัญ เพราะพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยขึ้นชื่อเรื่องของ "ความหวาน" เป็นอย่างมาก อาหาร และเครื่องดื่มส่วนใหญ่จึงมีรสหวานเจือปนอยู่เสมอ

 

          ความหวานที่พอดี ควรอยู่ที่ปริมาณเท่าไร ?

     องค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้คนปกติรับประทานน้ำตาลได้เพียง 6 ช้อนชาต่อวันเท่านั้น แต่เฉลี่ยแล้วคนไทยส่วนใหญ่ รับประทานน้ำตาลต่อวันมากถึง 20 ช้อนชา โดยประมาณ และยิ่งเป็นคนที่ชอบทานหวานมาก ๆ อยู่แล้วยิ่งทานน้ำตาลหนักกว่าเดิม ช่วงนี้กระแสชานมไข่มุกเอย หรือขนมหวานตามคาเฟ่ต่าง ๆ ที่คนจำนวนไม่น้อยเลยที่แวะเวียนไปทานกันจนร้านเต็มทุกอาทิตย์ ก็ส่งผลต่อเราทั้งสิ้น ซึ่งกิจวัตรหรือสิ่งที่เราพบปะในชีวิตประจำวันเหล่านี้ ทำให้คนไทยติดหวานโดยไม่รู้ตัว ทางเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน ทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. ) และกรมอนามัย พยายามดูแลคนไทยเรื่องนี้เป็นอย่างมาก พร้อมชี้ให้เห็นว่าการบริโภคน้ำตาลที่จะนำมาซึ่งโรคต่าง ๆ ทั้งเบาหวาน โรคอ้วน อันจะเกิดแต่ผลเสียต่อร่างกายได้ และยังมีผลกระทบอื่น ๆ มากมายที่ตามมาถ้าเกิดโรคเหล่านี้อีกด้วย

 

          กินหวานแบบมีความสุข ต้องเป็นความหวานที่พอดี

     น้ำตาล คือ สารแห่งความสุข แต่เมื่อบริโภคมากเกินคือ สารตั้งต้นของโรคเรื้อรัง ความหวานจากน้ำตาลส่งผลให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ( Endorphine) หรือสารแห่งความสุข ไม่ต่างจากสิ่งเสพติดเช่น ฝิ่น เฮโรอีน แต่กว่าสมองสั่งให้สารความสุขออกมาต้องบริโภคอาหาร หรือเครื่องดื่มรสหวานติดต่อกันบ่อยนั้นหมายถึงความหวานกำลังนำพาโรคเบาหวานเข้าสู่ชีวิต

 

          เลือกปรุงอาหารเพื่อความหวานที่พอดีด้วย น้ำหวานดอกมะพร้าว

     น้ำหวานดอกมะพร้าว ออร์แกนิค ตราแมนเนเจอร์ ( Organic Coconut Syrup By ManNature ) เป็นน้ำหวานเข้มข้นที่ผลิตได้จากดอกมะพร้าวธรรมชาติ 100% โดยไม่ใช่วัตถุกันเสีย ไม่เติมสี ไม่ใส่กลิ่น รวมทั้งไม่เจือปนน้ำตาลทรายแดง น้ำหวานดอกมะพร้าว 1 ช้อนชา ให้พลังงานเพียง 15 กิโลแคลอรี่เท่านั้น สามารถใช้แทนความหวานของน้ำตาล น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อมได้ รสชาติหวานกลมกล่อม เหมาะสำหรับปรุงอาหารทำขนม ผสมเครื่องดื่มนอกจากนี้ยังให้คุณประโยชน์มากมายอีกด้วย

 

          ที่มาของความหวานจาก น้ำหวานดอกมะพร้าว

     ในส่วนของ น้ำหวานดอกมะพร้าว ร่างกายดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่เลือดอย่างช้า ๆ ทำให้ได้พลังงานอย่างสม่ำเสมอดีต่อสุขภาพ แถมแคลอรี่ต่ำกว่าน้ำตาลทั่วไปด้วย ใช้ได้ดีกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือคนที่มีปัญหาเรื่องคอเลสเตอรอลต่ำ แต่ยังต้องการความหวาน เหมาะสำหรับผู้ใส่ใจในสุขภาพ เพราะมีดัชนีน้ำตาลต่ำ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลงได้

     กลไกของน้ำตาล เมื่อเข้าสู่ร่างกาย และดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ตับอ่อนจะหลั่งอินซูลินนำพากลูโคสเข้าสู่เซลล์  เซลล์เผาผลาญเป็นพลังงาน และเมื่อกล้ามเนื้อดึงเอาพลังงานไปใช้เลย น้ำตาลส่วนที่เกินจากการใช้งาน จะถูกเก็บไว้ที่กล้ามเนื้อ ตับก็ดึงไปเปลี่ยนเป็นไขมัน ไขมันเมื่อมากเกินจะไปสะสมที่กล้ามเนื้อ และพุง ดังนั้น การกินหวานเกินจึงเป็นสาเหตุของโรคอ้วนลงพุง และเบาหวานอีกด้วย

 

          โรคเบาหวาน โรคที่มาแบบไม่ทันได้ระวังตัว

     โรคเบาหวานถือเป็นโรคประจำตัวของใครหลาย ๆ คนไปแล้ว สาเหตุในการเกิดโรคเบาหวานนั้นมีหลายสาเหตุทั้งทางพันธุ์กรรม หรือเป็นเพราะพฤติกรรมในการรับประทานอาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในร่างกาย หรือในเลือดสูงอยู่ตลอดเวลา เพราะหากไม่ควบคุมระดับน้ำตาลอาจจะทำให้เสี่ยงอันตราย และเป็นแผลเบาหวานได้

 

          แผลเบาหวาน คืออะไร ?

     แผลเบาหวานเป็นบาดแผลเรื้อรังที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวาน สาเหตุมักมาจากผู้ป่วยโรคเบาหวานมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน มีความเสี่ยงที่ระบบสารท และหลอดเลือดส่วนปลายเสียหาย และยังส่งผลให้เส้นเลือดตีบ และอุดตัน เมื่อเท้าขาดเลือดจึงส่งผลให้แผลหายยาก เพราะไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีระบบประสาทรับความรู้สึกเสื่อมจะทำให้มีความรู้สึกได้น้อยลง หรือไม่มีเลยจึงเกิดอาการชา และไม่รู้สึกเจ็บเมื่อเกิดแผลในช่วงแรกมักจะไม่รู้สึกกว่าจะรู้ตัวแผลก็ลุกลามไปมากจึงเป็นเหตุผลให้รักษายาก และระบบประสาทจะสั่งการผิดปกติทำให้กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ ซึ่งส่งผลให้เท้าอาจจะผิดรูป บิดเบี้ยว หากมีการติดเชื้อรุนแรงผู้ป่วยอาจจะต้องตัดขา หรือเท้าทิ้ง กลุ่มคนที่เสี่ยงในการเกิดแผลเบาหวาน คือ ผู้ป่วยโรคเบาหวานเรื้อรังมานาน 5-10 ปี ยิ่งเป็นโรคเบาหวานมานานหลายปียิ่งเสี่ยงต่อการเกิดบาดแผลมากเท่านั้น

 

          ปัญหาของแผลโรคเบาหวาน

- มีเส้นเลือดในร่างกายตีบหรือตัน ซึ่งทำให้เลือดไปเลี้ยงในบริเวณเท้าไม่เพียงพอ ผู้ป่วยโรคเบาหวานกลุ่มนี้จะเริ่มมีอาการปวดน่อง เดินได้เพียงระยะทางสั้น ๆ ต้องนั่งพัก เพราะว่าเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่พอ ถ้าไม่รักษาปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้แผลเรื้อรัง ซึ่งถ้าแผลติดเชื้อรุนแรงก็ต้องตัดเท้าหรือขาทิ้ง เพราะเหตุนี้ทางที่ดีเมื่อเกิดแผลขึ้นกับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรไปพบแพทย์ทันที

- ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักจะมีระดับน้ำตาลในร่างกาย หรือในเลือดสูง หากไม่ควบคุมระดับน้ำตาลก็จะยิ่งทำให้แผลติดเชื้อได้ง่าย และหายยากเช่นกัน

 

          วิธีรักษาแผลเบาหวาน

- ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานต้องควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย และในเลือดให้ดี เพราะจะทำให้รักษาไม่ได้หากระดับน้ำตาลสูง ระบบร่างกายจะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพทำให้กำจัดเชื้อออกไปไม่ได้

- ทำบอลลูนขยายหลอดเลือดเพื่อให้เลือดเข้าไปหล่อเลี้ยงในบริเวณที่เกิดแผล การรักษาด้วยเทคโนโลยีบอลลูนหลอดเลือดสามารถทำได้ในผู้ป่วยสูงอายุที่มีโรคประจำตัว เพราะจะรบกวนระบบของการทำงานของร่างกายน้อยกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่น การเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับผู้ป่วยถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ

 

          การป้องกันแผลเบาหวาน

- ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย และในเลือดให้ปกติอยู่เสมอ

- ทำความสะอาดเท้า และตรวจเท้า ทั้งในบริเวณนิ้วเท้า และใต้เท้าเพราะอาการชาที่จะทำให้ไม่รู้เจ็บจะทำให้เป็นแผลได้โดยไม่รู้ตัว

- ทาครีมไม่ให้เท้าแห้ง

- หากมีรูปเท้าที่บิดเบี้ยวไม่เป็นทรงต้องใส่รองเท้าพิเศษสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เกิดแผลเพื่อให้รับกับรูปเท้า และป้องกันไม่ให้เป็นแผล

- เมื่อเกิดแผลเบาหวานขึ้นควรรีบไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

 

          โรคแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

1. โรคไต

2. โรคหลอดเลือดสมอง

3. โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

4. โรคจอประสาทตาเสื่อม

5. โรคปลายประสาทเสื่อม

 

          เคล็ดลับคุมโรคเบาหวาน

     อาหารมีส่วนสำคัญในการรักษาโรคเบาหวาน ซึ่งคนเป็นเบาหวานส่วนมากจะไม่ค่อยดูแลตัวเองในเรื่องอาหารการกิน โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่หายขาดทำให้การรับประทานยาไม่สามารถรักษาได้ต้องพึ่งการควบคุมอาหาร หรือการเลือกรับประทานอาหารมาเป็นส่วนช่วย เพราะเบาหวานนั้นเป็นโรคที่เกิดจากการความผิดปกติของการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน หรือการออกฤทธิ์ของอินซูลิน ทำให้ร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนน้ำตาลมาเป็นพลังงานได้จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง หากมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงนานก็จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคอื่น ๆ ได้  ดังนั้น อาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน บางรายอาจจะเกิดอาการอยากทานหวาน การเลือกรับประทานน้ำตาลธรรมชาตินั้นดีต่อร่างกายมากกว่า เช่น น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut syrup ) ซึ่งน้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut syrup ) นั้นมีระดับน้ำตาลต่ำ จึงทำให้ผู้ที่ป่วยโรคเบาหวานสามารถรับประทานแทนน้ำตาลปกติได้ แต่อย่าทานในปริมาณที่มากเกินไป ส่วนนมที่ดื่มก็ควรดื่มเป็นนมพร่องมันเนย หรือขาดมันเนย หากเป็นนมถั่วเหลืองก็ควรเลือกแบบหวานน้อย หรือใช้น้ำหวานดอกมะพร้าว ( Coconut syrup ) แทนน้ำตาลปกติ

 

     น่ากลัวใช่ไหมคะ หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว การนำความหวานเข้าสู่ร่างกายควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง หลีกเลี่ยงน้ำตาลได้ก็ควรหลีกเลี่ยง และอย่าลืม น้ำหวานดอกมะพร้าว ไอเท็มเด็ด ๆ ในการรับประทานความหวานที่พอดีจากแมนเนเจอร์ของเรานะคะ

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

น้ำตาลดอกมะพร้าว หวานไม่กลัวเบาหวาน

น้ำหวานดอกมะพร้าว กินเปล่า ๆ ได้ไหม


บทความที่แนะนำ