“น้ำตาล” สำหรับโรคเบาหวาน
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

“น้ำตาล” สำหรับโรคเบาหวาน


 โรคเบาหวานนั้นเป็นโรคที่ติดต่อจากพันธุ์กรรมหรือจากพฤติกรรมการกินอาหารที่มีรสชาติหวานมากเกินไปหรือแป้งที่รับประทานเข้าไปแล้วเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาล แต่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าน้ำตาลสำหรับโรคเบาหวานก็มีเช่นกัน

 

โรคเบาหวานชนิดที่ 1

โรคเบาหวานชนิดที่ 1 คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สร้างฮอร์โมนอินซูลิน เพราะระบบภูมิคุ้มกันไปทำลายเซลล์ที่ตับอ่อนที่ทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 นั้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายปกติจะต่อสู่กับเชื้อโรคที่ทำลายเซลล์ในตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนหยุดการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน เมื่อร่างกายของคุณไม่มีอินซูลินจะไม่สามารถนำน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานในร่างกายทำให้น้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติจึงทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ต้องได้รับยาอินซูลินเพื่อให้ร่างกายของคุณนั้นปกติ

 

โรคเบาหวานชนิดที่ 2

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้เองหรือร่างกายไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ประโยชน์ ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ไม่สามารถสร้างอินซูลินได้หรือนำไปใช้ประโยชน์ต่อร่างกายได้จึงทำให้ร่างกายเกิดมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงผิดปกติ ซึ่งน้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์ที่ได้จากการรับประทานอาหาร ฮอร์โมนอินซูลินที่สร้างจากตับอ่อนจะช่วยนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงาน แต่ในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงต้องได้รับยาอินซูลินเพื่อให้ร่างกายของคุณปกติ

 

การบวมส่วนปลายของโรคเบาหวาน

การบวมส่วนปลาย (Peripheral edema) คือ การบวมที่เกิดจากการสะสมสารน้ำในเท้า ขา ข้อเท้า โดยอาจจะเกิดเพียงข้างเดียวหรือสองข้าง แต่ถ้าคุณป่วยเป็นโรคเบาหวานคุณควรต้องระมัดระวังมากกว่าปกติ การบวมเป็นผลมาจากการทำลายเส้นเลือดฝอย หรือ การมีความดันเพิ่มขึ้นทำให้มีสารน้ำรั่วจาเส้นเลือดออกมาสู่เนื้อเยื่อจึงทำให้เกิดอาการบวม ผู้ป่วยโรคเบาหวานส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องการไหลเวียนเลือด ซึ่งอาจจะทำให้แผลที่เกิดขึ้นหายช้าลงหรือไม่หายไปเลย การบวมจึงทำให้แผลหายยากขึ้น

 

สาเหตุการบวมส่วนปลายของโรคเบาหวาน

สาเหตุทีทำให้เกิดโรคนี้มีหลายสาเหตุที่จะเป็นการบวมส่วนปลายได้ เช่น การไม่ได้ขยับร่างกาย การผ่าตัด การนั่งและยืนนาน ๆ การบวมส่วนปลายนี้อาจเกิดเพียงข้างเดียวเพราะเกิดจากลิ่มเลือดอุดตันของเส้นเลือดดำ (Deep venous thrombosis-DVT) การอักเสบของเนื้อเยื่อ (Cellulitis) การอักเสบของกระดูกและกล้ามเนื้อ (Osteomyelitis) อุบัติเหตุ หรือ การอุดตันระบบหมุนเวียนน้ำเหลือง ภาวะนี้ยังร่วมกับภาวะอันตรายอื่น ๆ ร่วมกับโรคเบาหวานได้ด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคตับและไต ยารักษาโรคเบาหวานบางชนิดก็ทำให้เกิดอาการบวมได้เช่นกัน ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจหรือหัวใจวายได้มากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า เมื่อเกิดอาการบวมควรรีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

 

อาการการบวมส่วนปลายของโรคเบาหวาน

- ผิวหนังตึงหรือมันวาว

- บวม

- การบวมที่กดบุ๋มหรือไม่บุ๋มจะบอกสาเหตุของการเกิดการบวม

 

วิธีการรักษาของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งแนวทางการรักษามีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ คือ

 

1.การรักษาโรคเบาหวานตามแพทย์แผนปัจจุบัน

การรักษาโรคเบาหวานตามแพทย์ปัจจุบัน คือ แพทย์จะให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานรับประทานยาหรือฉีดอินซูลินเข้าสู่กระแสเลือดขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค ซึ่งการรับประทานยาและฉีดอินซูลินนั้นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างมีวินัยและไม่ขาด ถ้าท่านใดมีอาการที่รุนแรงขึ้นเพราะอาจจะไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

 

2.การรักษาโรคเบาหวานตามธรรมชาติบำบัด

การรักษาโรคเบาหวานตามธรรมชาติบำบัด คือ วิธีการที่ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปและเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานในระยะแรกหรือผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงมากนัก โดยวิธีธรรมชาติบำบัดช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยได้เป็นอย่างมากและทำควบคู่กับการรับประทานยาและฉีดอินซูลินด้วยจะยิ่งทำให้ได้ผลดีมากกว่าเดิมด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

- การควบคุมเมนูอาหาร

ผู้ป่วยเบาหวานไม่สามารถรับประทานอาหารได้เหมือนกับคนปกติทั่วไป ซึ่งจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารต้องห้ามและเสริมด้วยอาหารที่มีประโยชน์เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นหรือรับประทานอาหารที่ช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น อบเชย มะระขี้นก ตำลึง

 

- เลือกทานน้ำตาลที่เหมาะสม

ผู้ป่วยโรคเบาหวานบางรายอาจจะโหยหาความหวาน จริง ๆ แล้วน้ำตาลธรรมชาติอย่าง น้ำตาลดอกมะพร้าว (coconut syrup) นั้นมีดัชนีน้ำตาลที่ต่ำ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2 สามารถรับประทานได้ เพราะน้ำตาลดอกมะพร้าว (coconut syrup) จะไม่ไปทำให้ระดับน้ำตาลของคุณสูงเหมือนน้ำตาลชนิดอื่น ๆ

 

- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีทั้งบุคคลปกติและผู้ป่วยโรคเบาหวานเพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง การออกกำลังกายนำพลังงานออกไปใช้เป็นวิธีที่ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้

 

- ทำจิตใจให้สบาย

ความกลัวหรือความกังวลอาจจะทำให้ภาวะน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น ดังนั้นคุณควรทำจิตใจให้สบายเพราะพื้นฐานจิตใจที่ดีช่วยให้คุณภาพชีวิตของคุณดีอยู่แล้ว

 

     การบำบัดรักษาทางธรรมชาติก็ถือว่าเป็นสิ่งใกล้ตัวที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เพราะเรื่องอาหารการกินเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แค่คุณเลือกคุณภาพชีวิตของคุณก็จะดีขึ้น

น้ำหวานดอกมะพร้าวออร์แกนิค ตราแมนเนเจอร์ (Organic Coconut Syrup By ManNature)

น้ำหวานดอกมะพร้าว สามารถใช้เพิ่มความหวาน ให้กับอาหาร ทาขนมปัง แพนเค้ก วัฟเฟิล แทนการใช้น้ำผึ้งได้

น้ำหวานดอกมะพร้าว สามารถเติมในเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และใช้เป็นส่วนผสม ในการทำอาหาร ขนมหวาน และ เครื่องดื่มทุกชนิด

น้ำหวานดอกมะพร้าว สามารถใช้แทนน้ำตาลปรุงอาหารคาวได้

น้ำหวานดอกมะพร้าว มีส่วนช่วยในการ เพิ่มความงามให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ทำให้ผิวสวยมีสุขภาพดี น้ำหวานดอกมะพร้าว ช่วยเสริมพลังงาน และ ปรับระบบการขับถ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น น้ำหวานดอก มะพร้าว มีส่วนช่วยในการลดระดับ ความดัน และ ควบคุมความดันให้เป็นปกติ น้ำหวานดอกมะพร้าว ช่วย ลดระดับน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลง และ ป้องกัน โรคเบาหวานได้ น้ำหวานดอกมะพร้าว มีส่วนช่วยในการลดระดับ คอเลสเตอรอลในเลือด ให้ต่ำลงได้ จึงช่วยบรร เทาอาการในคนที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูงได้ น้ำหวานดอกมะพร้าว ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคอ้วน โรคไตวายเรื้อรัง น้ำหวานดอกมะพร้าว ใช้ได้ดีกับผู้ป่วย โรคเบาหวานที่ยังต้องการ ความหวาน น้ำหวานดอกมะพร้าว ช่วยเพิ่ม รสชาติอาหาร และ ขนม มีความหวาน มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน จึงนิยมนำมาใช้ในการปรุงรสชาติอาหารและขนม ทำให้รสชาติอาหารไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป

น้ำหวานดอกมะพร้าว 1 ช้อนชาให้พลังงานเพียง 15 กิโลแคลอรี่

ค่า GI (Glycemic Index = ค่าดัชนีน้ำตาล) เป็นหน่วยวัดผลของคาร์โบไฮเดรต ต่อระดับน้ำตาลในเลือด

 

น้ำหวานดอกมะพร้าว ออร์แกนิค ( Organic Coconut Syrup )

เป็นน้ำหวานเข้มข้นที่ผลิตได้จากดอกมะพร้าวธรรมชาติ 100%

เป็นน้ำหวานเข้มข้น ที่ผลิตได้จากดอกมะพร้าวธรรมชาติ 100% โดยไม่ใช่วัตถุกันเสีย ไม่เติมสี ไม่ใส่กลิ่น รวมทั้งไม่เจือปนน้ำ ตาลทรายแดง สามารถใช้แทนความหวานของน้ำผึ้ง หรือ น้ำเชื่อม มีรสชาติหวานกลมกล่อม เหมาะสำหรับปรุงอาหาร ทำขนม หรือ ผสมเครื่องดื่ม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก sanook

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ประเภทของน้ำตาล

น้ำตาลทรายก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ


Tag :


บทความที่แนะนำ