เป็นเบาหวานกินอย่างไร
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

เป็นเบาหวานกินอย่างไร


โรคที่ติดอันดับต้น ๆ ของโลกก็คงไม่พ้นการกินหวาน การกินหวานผลตามมา ก็คือ น้ำหนักขึ้นและ มีจะโรคตามมาคือ ความดัน โรคอ้วน โรคเบาหวาน ถ้าเราเป็นเบาหวานแล้วการกินเราจะต้องทำกันยังไง

 

อาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน คือ อาหารทั่วไปไม่แตกต่างจากอาหารที่รับประทานจากปกติ แต่เป็นอาหารที่ไม่หวานจัด โดยต้องคำนึงถึงปริมาณ และชนิดของแป้ง และไขมันเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด รวมถึง การรักษาน้ำหนักตัว ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

 

นอกจากนี้ ควรรับประทาน อาหารในปริมาณใกล้เคียงกัน ในแต่ละวัน โดยเฉพาะปริมาณ คาร์โบไฮเดรต โดยรวม ไม่ต้องงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง ถ้าต้องการลดน้ำหนัก ให้ลดปริมาณอาหารได้ แต่ไม่ควรงดอาหาร เพราะจะหิวและรับประทานมื้อถัดไปมาก ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้น ๆ ลง ๆ หากต้องการลดน้ำหนัก ให้ปรึกษาแพทย์ ที่ดูแลท่านก่อน เพราะอาจจะต้องปรับยาเบาหวานร่วมด้วย

 

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ น้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ น้ำผึ้ง ขนมไทย เบเกอรี่ ขนมหวาน ผลไม้กระป๋อง ผลไม้ดอง หรือผลไม้หวานจัดอื่น ๆ

 

แล้วถ้าเราอยากจะกินหวานละควรทำอย่างไร

 

การกินหวานในผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นค่อนข้างที่จะกินยาก นิดหนึ่ง บอกได้เลยว่าถ้าอยากจะกินจริง ๆ ก็ต้องหา น้ำตาลหรือ ส่วนผสมอาหารที่ไม่มีผลกระทบต่อโรค เช่น

 

น้ำหวานดอกมะพร้าว

 

น้ำหวานดอกมะพร้าว  ( Organic Coconut Syrup ) มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ผู้เป็นเบาหวาน สามารถรับประทานได้ ใช้ในการปรุงอาหาร ทั้งคาว หวาน ขนม และเครื่องดื่ม ใช้แทนน้ำตาลโดยไม่เสียรสชาติ ทั้งยังให้ความหอม หวาน กลมกล่อม ไม่ใช้สารเคมี และปราศจากสารกันเสีย ถือเป็นน้ำตาลดี ๆ ที่มีประโยชน์และไม่ทำให้อ้วนหรือเสี่ยงเบาหวาน เพราะเป็นน้ำตาลธรรมชาติ ที่ได้จากการสกัดจากดอกมะพร้าวจึงมีความปลอดภัย และอุดมไปด้วย สารอาหารอย่างครบถ้วน แถมมีแคลอรีต่ำกว่า น้ำตาลทั่วไปอีกด้วย นอกจากนี้ สารอาหารในน้ำหวานดอกมะพร้าว  ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย โดยสารอาหารหลักๆ ได้แก่

 

โพแทสเซียม

 

          เป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และคอเลสเตอรอลโดยตรง แถมยังช่วยควบคุมความดันให้อยู่ในระดับที่ปกติ

 

ธาตุเหล็ก

 

          เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายมีความแข็งแรง เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ลดอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลียได้เป็นอย่างดี และช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงอีกด้วย

 

ทองแดง   

 

     ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมพลังงานและปรับระบบการขับถ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

อาหารหวาน ที่จะหวานเท่าไรก็ไม่มีน้ำตาล

 

น้ำมันมะพร้าว

 

     แม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะมีไขมันอิ่มตัวสูง แต่ก็ช่วยควบคุมอาการอยากน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ชาชะเอม

 

     ชาชะเอม หรือชาที่มีรสหวานตามธรรมชาติ จะช่วยให้ร่างกายได้รับรสหวาน โดยไม่ต้องมีน้ำตาลสักเม็ด และไม่เพิ่มแคลอรีด้วย

 

มันหวาน

 

     แน่นอนว่า มันหวาน เป็นสิ่งที่ให้ความหวานแบบธรรมชาติ แถมวิธีปรุงให้อร่อยก็ไม่ยาก อาจจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆ คลุกกับน้ำมันมะพร้าว โรยด้วยผงอบเชยและปาปริกา และเข้าเตาอบ ก็ได้อาหารว่างหวาน ๆ ไว้รับประทานแล้ว

 

แครอทแท่ง

 

     แครอท ( Carrot ) เป็นผักที่กรอบ มีไฟเบอร์สูง และมีความหวานตามธรรมชาติกว่าผักชนิดอื่น ๆ แค่หั่นเป็นแท่งๆ แช่ไว้ในตู้เย็น หิวเมื่อไรก็นำออกมาจิ้ มกินกับฮุมมุส หรือกัวคาโมเลก็อร่อยไม่น้อยเลย

 

เนยถั่ว

 

     เนยถั่ว เป็นอาหารยอดฮิตสำหรับยุคนี้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัลมอนด์ หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ที่มีรสหวานตามธรรมชาติอยู่แล้ว แถมยังเต็มไปด้วย ไขมันดีและโปรตีน เพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย

 

ดาร์กช็อกโกแลต 85%

 

     ดาร์กช็อกโกแลต ( Dark Chocolate ) มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก และก็ไม่ใช่เรื่องผิดหากเราจะบริโภคโกโก้คุณภาพดีแทนน้ำตาล นอกจากนี้ ในดาร์กช็อกโกแลต 85% มีน้ำตาลอยู่เพียง 1 ช้อนชา หรือ 100 กรัมเท่านั้น และถ้ายังขมไม่พอ ก็สามารถอัพเลเวลเป็น 90% ได้ด้วย

 

     การที่เรากินหวานนั้นไม่ผิด การที่เราเป็นโรคเบาหวานนั้นก็ไม่ผิดเช่นกัน แต่เมื่อเราเป็นแล้วเราควรที่จะอยู่กับมัน หรือ ปรับตามให้ ดีขึ้น

 

สุขภาพที่ดี เริ่มได้ที่ตัวคุณ ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำหวานดอกมะพร้าวออร์แกนิค ตราแมนเนเจอร์ (Organic Coconut Syrup By ManNature)

 

 

                                                                                                                                                                                                     ขอขอบคุณข้อมูลจาก  padpod

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

มะพร้าวมีกี่ชนิด

สตอเบอร์รี่ปั่น


Tag :


บทความที่แนะนำ